สารบัญเนื้อหา ประกาศจุฬาฯ อนุญาตละหมาดวันศุกร์
จุฬาราชมนตรี ประกาศอนุญาตให้ละหมาดวันศุกร์ที่มัสยิด โดยมีระเบียบการปฎิบัติดังนี้
1. มาตรการดำเนินการ
ให้คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดใช้ดุลยพินิจร่วมกับคณะกรรมการอิสลามประจำมัสยิด โดยขอคำปรึกษาจากผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานะประธานกรรมการโรคติดต่อจังหวัดและผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัด ในการปฏิบัติศาสนกิจละหมาดวันศุกร์ (ญุมอะห์) เพื่อให้เป็นไปตามประกาศจุฬาราชมนตรี ฉบับนี้ (ฉบับที่ 5/2563) และมาตรการหรือคำแนะนำของทางราชการเกี่ยวกับการป้องกันโรค
2. แนวทางการปฏิบัติศาสนกิจ (ละหมาดวันศุกร์)
2.1 สำหรับมัสยิด
- ให้กรรมการมัสยิด หรือหน่วยงานสาธารณสุขพื้นที่ ตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเข้ามัสยิด
- ให้จัดวางเจลแอลกอฮอล์ไว้หน้าทางเข้ามัสยิด
- งดใช้บ่อน้ำ (กอละห์) หรืออ่างใหญ่ร่วมกัน
- ให้ทำความสะอาดมัสยิดก่อนและหลังละหมาดวันศุกร์ทุกครั้ง และไม่เปิดเครื่องปรับอากาศ ให้เปิดหน้าต่างมัสยิด ผ้าม่าน เพื่อให้อากาศถ่ายเทสะดวก
- ให้จัดทำเครื่องหมายระบุจุดละหมาด ที่สามารถระบุตำแหน่งได้ โดยให้เว้นระยะห่าง 1.5-2 เมตร
- ให้ควบคุมทางเข้าออกมัสยิด และจัดระเบียบระยะห่างขณะเดินเข้าและออกจากมัสยิด
2.2 สำหรับผู้มาละหมาดวันศุกร์
- ให้อาบน้ำละหมาดจากที่บ้าน
- ให้ใช้ผ้าปูละหมาดส่วนตัว โดยนำมาจากบ้าน
- ให้ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ที่มัสยิดจัดเตรียมไว้
- ให้สวมหน้ากากอนามัยตลอดระยะเวลาของการปฏิบัติศาสนกิจ
- งดการสลามด้วยการสัมผัสมือ การสวมกอด และสัมผัสแก้ม โดยให้ยกมือพร้อมกล่าวสลามเท่านั้น
- เด็กและสตรีให้งดละหมาดวันศุกร์ที่มัสยิด
- หากมีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก ให้งดไปละหมาดวันศุกร์ที่มัสยิด
2.3 การละหมาดวันศุกร์
- ให้เว้นระยะห่างระหว่างแถวและในแถว 1.5 – 2 เมตร และให้ยืนตามจุดที่มัสยิดได้จัดทำเครื่องหมายไว้
- ให้กระชับเวลาในการละหมาดวันศุกร์ นับตั้งแต่อาซาน คุตบะห์ และละหมาด ไม่เกิน 20 นาที
ทั้งนี้ ยังคงให้งดการจัดกิรกรรมทางศาสนาและกิจกรรมอื่นที่มีการรวมตัวกันเป็นกลุ่มทุกประเภท ตลอดจนการเลี้ยงละศีลอด